คัดมาให้ 10 แอพ ประชุมออนไลน์ ใช้ง่าย ไม่ติดขัด เหมาะกับยุค Hybrid work

คัดมาให้ 10 แอพ ประชุมออนไลน์ ใช้ง่าย ไม่ติดขัด เหมาะกับยุค Hybrid Work

ในยุคที่การทำงานจากที่บ้านกลายเป็นเรื่องปกติ การเลือกแอปพลิเคชันสำหรับ ประชุมออนไลน์ ที่ใช้งานได้ฟรีและตอบโจทย์การทำงานกลายเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการประชุมในองค์กร การเรียนออนไลน์ หรือการพูดคุยกับทีมงานทั่วโลก บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 10 แอปพลิเคชันสำหรับประชุมออนไลน์ที่ใช้งานฟรี พร้อมรีวิวสั้นๆ เพื่อช่วยคุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

การเตรียมตัวก่อน ประชุมออนไลน์

การเตรียมตัวก่อน ประชุมออนไลน์

การประชุมออนไลน์ที่ไม่มีการวางแผนหรือจัดการที่ดีอาจทำให้เสียเวลาทั้งต่อตัวเองและผู้เข้าร่วมประชุมท่านอื่นๆได้ ทีมงานเราได้รวบรวมเคล็ดลับและวิธีการที่ช่วยให้การประชุมออนไลน์ของคุณให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่สะดุด

  1. เตรียมตัวล่วงหน้า
    การเตรียมตัวก่อนการประชุมเป็นสิ่งสำคัญ คุณควรตรวจสอบว่าอุปกรณ์ทั้งหมดเชื่อมต่อและทำงานได้ดี เช่น กล้อง ไมโครโฟน และอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ ควรตรวจสอบว่าวัสดุหรือเอกสารที่จะใช้มีความพร้อม และส่งให้ผู้เข้าร่วมประชุมก่อนล่วงหน้า เพื่อให้ทุกคนได้ศึกษาเนื้อหาก่อนที่จะเริ่มการประชุม
  2. กำหนดวาระการประชุม
    การมีวาระการประชุมที่ชัดเจนช่วยให้ผู้เข้าร่วมรู้ว่าควรเตรียมตัวอย่างไร และช่วยให้การประชุมเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ควรกำหนดเวลาสำหรับแต่ละหัวข้อ และพยายามยึดตามกรอบเวลาที่กำหนดเพื่อป้องกันไม่ให้การประชุมยืดยาวเกินไป
  3. เลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม
    การเลือกใช้แพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับลักษณะของการประชุมเป็นสิ่งสำคัญ ควรพิจารณาว่ามีผู้เข้าร่วมกี่คน ต้องใช้ฟีเจอร์ใดบ้าง เช่น การแชร์หน้าจอ การบันทึก หรือการส่งไฟล์ เป็นต้น การเลือกแพลตฟอร์มที่มีความเสถียรและสะดวกในการใช้งานจะช่วยให้การประชุมเป็นไปอย่างราบรื่น
  4. เริ่มการประชุมตรงเวลา
    การเริ่มต้นการประชุมตรงเวลาช่วยสร้างความเป็นมืออาชีพและเคารพเวลาของทุกคน ควรแจ้งเตือนผู้เข้าร่วมก่อนเวลาประชุมเล็กน้อย เพื่อให้ทุกคนมีเวลาในการเตรียมตัวและเข้าร่วมตรงเวลา
  5. ส่งเสริมการมีส่วนร่วม
    ควรกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมทุกคนมีส่วนร่วมในการประชุม ไม่ว่าจะเป็นการถามคำถาม แสดงความคิดเห็น หรือเสนอแนวคิดใหม่ๆ การมีส่วนร่วมของทุกคนจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความคิดสร้างสรรค์ในการประชุม
  6. บันทึกข้อสรุปและสิ่งที่ต้องทำต่อ
    หลังจากการประชุมเสร็จสิ้น ควรบันทึกข้อสรุปและสิ่งที่ต้องดำเนินการต่อในภายหลัง แล้วส่งให้ผู้เข้าร่วมทุกคนเพื่อให้ทราบถึงหน้าที่และความรับผิดชอบของแต่ละคน ซึ่งจะช่วยให้ทีมสามารถติดตามผลและดำเนินงานต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  7. ประเมินผลหลังการประชุม
    หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมแล้ว ควรมีการประเมินผลเพื่อดูว่าการประชุมครั้งนั้นประสบความสำเร็จแค่ไหน สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ และมีอะไรที่ควรปรับปรุงในครั้งต่อไป การประเมินผลจะช่วยให้ทีมงานสามารถปรับปรุงวิธีการทำงานและการประชุมในอนาคตได้ดีขึ้น
  8. สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
    ถึงแม้ว่าการประชุมจะเน้นเรื่องงานเป็นหลัก แต่บรรยากาศที่ผ่อนคลายจะช่วยให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกสบายใจและกล้าที่จะแสดงความคิดเห็น สามารถเริ่มด้วยเรื่องเบาๆ หรือมุขเล็กๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยและลดความตึงเครียด
  9. ใช้เทคโนโลยีช่วยเสริม
    มีเครื่องมือและแอปพลิเคชันมากมายที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการประชุมออนไลน์ เช่น โปรแกรมสำหรับสร้าง mind map การจดบันทึก หรือเครื่องมือสำหรับโหวตความคิดเห็น การใช้เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความเข้าใจและประสิทธิภาพในการสื่อสารระหว่างทีม
  10. ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย
    ความปลอดภัยของข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อมีการแชร์ข้อมูลที่เป็นความลับ ควรใช้แพลตฟอร์มที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี และหลีกเลี่ยงการแชร์ลิงก์หรือข้อมูลผ่านช่องทางที่ไม่ปลอดภัย

10 แอพ ประชุมออนไลน์ฟรี ที่ใช้งานง่ายและคุ้มค่า

10 แอพ ประชุมออนไลน์ฟรี ที่ใช้งานง่ายและคุ้มค่า

ทีมงาน 108 lightbox ได้คัดเลือก 10 แอป ประชุมออนไลน์ ฟรี ที่ได้รับความนิยมและมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ดังนี้

  1. Zoom
    Zoom เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการประชุมออนไลน์ยอดนิยมที่สุด ด้วยฟีเจอร์ที่ครบครัน รองรับผู้ใช้หลายคนได้พร้อมกัน และใช้งานง่าย ทั้งยังมีให้เลือกใช้ทั้งฟรีและแบบสมาชิก รองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้ถึง 100 คนในเวอร์ชันฟรี และสามารถประชุมได้ต่อเนื่อง 40 นาที
  2. Microsoft Teams
    Microsoft Teams เหมาะสำหรับองค์กรที่ใช้ระบบ Microsoft Office เนื่องจากมีการเชื่อมโยงกับแอปพลิเคชันอื่นๆ ในชุด Office 365 ทำให้การทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างราบรื่น
  3. Google Meet
    Google Meet เป็นแอพที่ใช้ง่าย ใช้ฟรี และมีความเสถียรสูง เหมาะสำหรับการประชุมกลุ่มขนาดเล็กถึงขนาดกลาง รองรับการประชุมออนไลน์ฟรีได้สูงสุด 100 คน พร้อมการเชื่อมต่อกับ Google Workspace อย่างราบรื่น
  4. Skype
    Skype เป็นหนึ่งในแอพยอดนิยมสำหรับการประชุมออนไลน์ ด้วยคุณภาพเสียงและภาพที่ดี สามารถรองรับผู้เข้าร่วมได้สูงสุด 50 คนในเวอร์ชันฟรี การเชื่อมต่อค่อนข้างเสถียร และมีฟีเจอร์เพิ่มเติมมากมาย
  5. GoToMeeting
    GoToMeeting เป็นแอพที่มีความปลอดภัยสูง มีฟีเจอร์ครบครัน และใช้งานง่าย เหมาะสำหรับองค์กรขนาดกลางถึงขนาดใหญ่
  6. BlueJeans
    BlueJeans เป็นแอพที่รองรับการประชุมแบบวิดีโอที่มีคุณภาพสูง และมีฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกัน
  7. Webex
    Webex เป็นแอพที่มีความปลอดภัยสูง และมีฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประชุม เช่น การแชร์หน้าจอ และการบันทึกการประชุม
  8. RingCentral
    RingCentral เป็นแอพที่มีฟีเจอร์ครบครัน รองรับการประชุมหลายคน และมีความเสถียรสูง เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่
  9. Whereby
    Whereby เป็นแอพที่ใช้งานง่าย มีฟีเจอร์พื้นฐานครบครัน และมีความปลอดภัยสูง เหมาะสำหรับการประชุมกลุ่มขนาดเล็กถึงขนาดกลาง
  10. Discord
    ถูกออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์ แต่ปัจจุบันได้รับความนิยมในการใช้งานเพื่อการสื่อสารในกลุ่มต่างๆ รวมถึงการประชุมออนไลน์ มีฟีเจอร์การสนทนาด้วยเสียง วิดีโอ และการแชร์หน้าจอ รวมถึงการสร้างเซิร์ฟเวอร์และช่องต่างๆ เพื่อจัดกลุ่มผู้ใช้งาน

ทั้ง 10 แอพที่เราแนะนำข้างต้น ล้วนมีจุดเด่นและความเหมาะสมที่แตกต่างกัน ดังนั้นคุณควรทดลองใช้และเลือกใช้แอพที่ตรงกับความต้องการของทีมงานและองค์กรของคุณมากที่สุด